วันจันทร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2559
วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2559
ผลงานลูกค้า
เปิดสอบ ราชการ งานราชการ หางาน สอบราชการ พนักงานราชการ สอบบรรจุ หางาน รับสมัครงาน สอบ กพ. อบต. สอบภาค ก สอบภาค ข รับสมัครงาน ศูนย์รวมงานราชการ
ศูนย์หนังสือ sheetbook เป็นที่รวบรวมแนวข้อสอบรับราชการ ทุกหน่วยงาน และนี่คือผลงาน ความคิดเห็นของลูกค้าที่ซื้อข้อสอบจากเราไป บางส่วน
ศูนย์หนังสือ sheetbook เป็นที่รวบรวมแนวข้อสอบรับราชการ ทุกหน่วยงาน และนี่คือผลงาน ความคิดเห็นของลูกค้าที่ซื้อข้อสอบจากเราไป บางส่วน
บริการต่างๅ
บริการต่างๆ
Youtube
++ใหม่ล่าสุด++แนวข้อสอบ กรมทรัพย์สินทางปัญญา ทุกตำแหน่ง
**อ่านเข้าใจง่าย เข้าใจเร็ว ครบ ตรงประเด็น อัดแน่นด้วยคุณภาพ
รวมข้อสอบเก่าเด็ดๆ และข้อสอบที่ออกบ่อยๆ รวบรวมข้อสอบจากรุ่นพี่ที่สอบได้ จากสนามจริง**
สนใจสั่งซื้อมาที่ โทร 090-8134236 Line :topsheet1
-แบบไฟล์ PDF (ส่งทางเมลล์)สามารถนำไปปริ้นอ่านได้เลย ในราคาเพียงชุดละ 399 บาท
-แบบหนังสือ+MP3 ส่งEMS (ทางไปรษณีย์) เป็นหนังสือ ราคา 799 บาท
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 619-2-17391-2 ธ.กสิกรไทย
สาขา บิ๊กซี พระรามที่ 2 ประเภท ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี กฤษฎาพร เหมวันต์
-แบบไฟล์ PDF (ส่งทางเมลล์)สามารถนำไปปริ้นอ่านได้เลย ในราคาเพียงชุดละ 399 บาท
-แบบหนังสือ+MP3 ส่งEMS (ทางไปรษณีย์) เป็นหนังสือ ราคา 799 บาท
-แบบใช้ฟังผ่านอินเตอร์เน็ตผ่าน IPad IPhone มือถือ รถยนต์ ราคา 299 บาท
กรุณาชำระค่าสินค้าและบริการ
เลขที่บัญชี 619-2-17391-2 ธ.กสิกรไทย
สาขา บิ๊กซี พระรามที่ 2 ประเภท ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี กฤษฎาพร เหมวันต์
โอนเงินแล้วแจ้งที่
Line ID : topsheet1
E-mail :topsheet1@gmail.com
Line ID : topsheet1
E-mail :topsheet1@gmail.com
แนวข้อสอบ
จำหน่ายแนวข้อสอบ>>กรมทรัพย์สินทางปัญญา ทุกตำแหน่ง
แนวข้อสอบนักวิชาการพาณิชย์ กรมทรัพย์สินทางปัญญา
1 ความรู้เกี่ยวกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
2 แนวข้อสอบเกี่ยวกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
3 ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา
4 ความรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา
5 การคุมครองทรัพสินย์ทางปัญญาระหว่างประเทศ
6 พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
7 แนวข้อสอบพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2527 และแก้ไขเพิ่มเติม
8 แนวข้อสอบภาษาต่างประเทศ ภาษาอังกฤษ
9 การคุมครองทรัพสินย์ทางปัญญาระหว่างประเทศ
10เครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ สิทธิบัตร การป้องกันการละเมิดทรัพสินทางปัญญา
11 แนวข้อสอบนักวิชาการพาณิชย์ (อัตนัย)
12 การเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์เข้าทำงานกรมทรัพย์สินทางปัญญา
MP3 - กรมทรัพย์สินทางปัญญา
แนวข้อสอบนักวิชาการตรวจสอบสิทธิบัตร (ด้านวิศวกรรม) กรมทรัพย์สินทางปัญญาฃ
1 ความรู้เกี่ยวกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
2 แนวข้อสอบเกี่ยวกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
3 ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา
4 ความรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา
5 การคุมครองทรัพสินย์ทางปัญญาระหว่างประเทศ
6 พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
7 แนวข้อสอบพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2527 และแก้ไขเพิ่มเติม
8 แนวข้อสอบภาษาต่างประเทศ ภาษาอังกฤษ
9 แนวข้อสอบพื้นฐานวิศวกรรมศาสตร์..
10 แนวข้อสอบความปลอดภัยทางวิศวกรรม
11 ระบบควบคุมทางวิศวกรรม
12 การเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์เข้าทำงานกรมทรัพย์สินทางปัญญา
MP3 - กรมทรัพย์สินทางปัญญา
แนวข้อสอบนักวิชาการตรวจสอบสิทธิบัตร (ด้านไฟฟ้า) กรมทรัพย์สินทางปัญญา
1 ความรู้เกี่ยวกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
2 แนวข้อสอบเกี่ยวกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
3 ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา
4 ความรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา
5 การคุมครองทรัพสินย์ทางปัญญาระหว่างประเทศ
6 พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
7 แนวข้อสอบพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2527 และแก้ไขเพิ่มเติม
8 แนวข้อสอบภาษาต่างประเทศ ภาษาอังกฤษ
9 ความรู้ทั่วพื้นฐานด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
10 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับวิศวกรรมไฟฟ้า
11 ความรู้เกี่ยวกับหลักการออกแบบไฟฟ้า
12 แนวข้อสอบหลักการเบื้องต้นในการออกแบบระบบไฟฟ้า
13 การเตรียมตัวสอบสัมภาษณ์เข้าทำงานกรมทรัพย์สินทางปัญญา
MP3 - กรมทรัพย์สินทางปัญญา
แนวข้อสอบนิติกร กรมทรัพย์สินทางปัญญา
1) ความรู้เกี่ยวกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
2 )แนวข้อสอบเกี่ยวกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
3 )ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา
4 )ความรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา
5 )การคุมครองทรัพสินย์ทางปัญญาระหว่างประเทศ
6 )พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
7) แนวข้อสอบพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2527 และแก้ไขเพิ่มเติม
8) แนวข้อสอบกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
9 )แนวข้อสอบกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
10) แนวข้อสอบกฎหมายอาญา
11 )แนวข้อสอบวิธีพิจารณาความแพ่ง
12 )แนวข้อสอบ พรบ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540
13 )แนวข้อสอบ พรบ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
14 )แนวข้อสอบพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
1) ความรู้เกี่ยวกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
2 )แนวข้อสอบเกี่ยวกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
3 )ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา
4 )ความรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา
5 )การคุมครองทรัพสินย์ทางปัญญาระหว่างประเทศ
6 )พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
7) แนวข้อสอบพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2527 และแก้ไขเพิ่มเติม
8) แนวข้อสอบกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
9 )แนวข้อสอบกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
10) แนวข้อสอบกฎหมายอาญา
11 )แนวข้อสอบวิธีพิจารณาความแพ่ง
12 )แนวข้อสอบ พรบ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540
13 )แนวข้อสอบ พรบ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
14 )แนวข้อสอบพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
**อ่านเข้าใจง่าย เข้าใจเร็ว ครบ ตรงประเด็น อัดแน่นด้วยคุณภาพ
รวมข้อสอบเก่าเด็ดๆ และข้อสอบที่ออกบ่อยๆ รวบรวมข้อสอบจากรุ่นพี่ที่สอบได้ จากสนามจริง**
ความรู้ทั่วไป
ทรัพย์สินทางปัญญา หมายถึง ผลงานอันเกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทรัพย์สินอีกชนิดหนึ่ง นอกเหนือจากสังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพย์สินที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น นาฬิกา รถยนต์ โต๊ะ เป็นต้น และอสังหาริมทรัพย์ คือ ทรัพย์สินที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น บ้าน ที่ดิน เป็นต้น
ประเภทของทรัพย์สินทางปัญญา โดยทั่วๆ ไป คนไทยส่วนมากจะคุ้นเคยกับคำว่า "ลิขสิทธิ์" ซึ่งใช้เรียกทรัพย์สินทางปัญญาทุกประเภท โดยที่ถูกต้องแล้วทรัพย์สินทางปัญญาแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ที่เรียกว่า ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม และลิขสิทธิ์
ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม ไม่ใช่สังหาริมทรัพย์และอสังหาริมทรัพย์ที่ใช้ในการผลิตสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ทางอุตสาหกรรม แท้ที่จริงแล้ว ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรมนี้ เป็นความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่เกี่ยวกับสินค้าอุตสาหกรรม ความคิดสร้างสรรค์นี้จะเป็นความคิดในการประดิษฐ์คิดค้น การออกแบบผลิตภัณฑ์ทางอุตสาหกรรม ซึ่งอาจจะเป็นกระบวนการ หรือเทคนิคในการผลิตที่ได้ปรับปรุงหรือคิดค้นขึ้นใหม่ หรือที่เกี่ยวข้องกับตัวสินค้า หรือผลิตภัณฑ์ที่เป็นองค์ประกอบและรูปร่างสวยงามของตัวผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังรวมถึงเครื่องหมายการค้าหรือยี่ห้อ ซื่อและถิ่นที่อยู่ทางการค้า ที่รวมถึงแหล่งกำเนิดสินค้าและการป้องกันการแข่งขันทางการค้าที่ไม่เป็นธรรม ทรัพย์สินทางอุตสาหกรรม จึงสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
- สิทธิบัตร (Patent)
- เครื่องหมายการค้า (Trademark)
- แบบผังภูมิของวงจรรวม (Layout - Designs Of Integrated Circuit)
- ความลับทางการค้า (Trade Secrets)
- สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (Geographical Indication)
ประเภททรัพย์สินทางปัญญา
ลิขสิทธิ์ หมายถึง งานหรือความคิดสร้างสรรค์ในสาขาวรรณกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม งานภาพยนต์ หรืองานอื่นใดในแผนกวิทยาศาสตร์ลิขสิทธิ์ยังรวมทั้ง
- สิทธิค้างเคียง (Neighbouring Right) คือ การนำเอางานด้านลิขสิทธิ์ออกแสดง เช่น นักแสดง ผู้บันทึกเสียงและสถานีวิทยุโทรทัศน์ในการบันทึกหรือถ่ายทอดเสียงหรือภาพ
- โปรแกรมคอมพิวเตอร์ (Computer Program หรือ Computer Software) คือ ชุดคำสั่งที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อกำหนดให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงาน
- งานฐานข้อมูล (Data Base) คือ ข้อมูลที่ได้รับเก็บรวบรวมขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ด้านต่างๆ
สิทธิบัตร หมายถึง หนังสือสำคัญที่รัฐออกให้เพื่อคุ้มครองการประดิษฐ์ (Invention) การออกแบบผลิตภัณฑ์ (Product Design) หรือ ผลิตภัณฑ์อรรถประโยชน์ (Utility Model) ที่มีลักษณะตามที่กฎหมายกำหนด
การประดิษฐ์ คือ ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับ ลักษณะองค์ประกอบ โครงสร้างหรือกลไกลของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งกรรมวิธีในการผลิตการักษา หรือปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์
การออกแบบผลิตภัณฑ์ คือ ความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับการทำให้รูปร่างลักษณะภายนอกของผลิตภัณฑ์เกิดความสวยงาม และแตกต่างไปจากเดิม
ผลิตภัณฑ์อรรถประโยชน์หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อนุสิทธิบัตร (Petty Patent) จะมีลักษณะคล้ายกันกับการประดิษฐ์ แต่เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่มีระดับการพัฒนาเทคโนโลยีไม่สูงมาก หรือเป็นการประดิษฐ์คิดค้นเพียงเล็กน้อย
แบบผังภูมิของวงจรรวม หมายถึง แผนผังหรือแบบที่ทำขึ้น เพื่อแสดงถึงการจัดวางและการเชื่อมต่อวงจรไฟฟ้า เช่น ตัวนำไฟฟ้า หรือตัวต้านทาน เป็นต้น
เครื่องหมายการค้า หมายถึง เครื่องหมายหรือสัญลักษณ์หรือตราที่ใช้กับสินค้า หรือบริการ ได้แก่
- เครื่องหมายการค้า (Trade Mark) คือเครื่องหมายที่ใช้เป็นที่หมายเกี่ยวข้องกับสินค้าเพื่อแสดงว่าสินค้าที่ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับสินค้าที่ใช้เครื่องหมายการค้าของบุคคลอื่น เช่น โค้ก เป๊ปซี่ บรีส แฟ้บ เป็นต้น
- เครื่องหมายบริการ (Service Mark) คือ เครื่องหมายที่ใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับการบริการ เพื่อแสดงว่าบริการที่ใช้เครื่องหมายนั้นแตกต่างกับบริการที่ใช้เครื่องหมายบริการของบุคคลอื่น เช่น เครื่องหมายของสายการบิน ธนาคาร โรงแรม เป็นต้น
- เครื่องหมายรับรอง (Certification mark) คือเครื่องหมายที่เจ้าของเครื่องหมายรับรองใช้เป็นที่หมายหรือเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการของบุคคลอื่น เพื่อเป็นการรับรองคุณภาพของสินค้า หรือบริการนั้น เช่น เชลล์ชวนชิม แม่ช้อยนางรำ เป็นต้น
- เครื่องหมายร่วม (Collective Mark) คือ เครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมาบบริการที่ใช้โดยบริษัทหรือรัฐวิสาหกิจในกลุ่มเดียวกัน หรือโดยสมาชิกของสมาคม กลุ่มบุคคล หรือองค์กรอื่นใดของรัฐหรือเอกชน เช่น ตราช้างของบริษัทปูนซิเมนไทย จำกัด เป็นต้น
ความลับทางการค้า หมายถึง ข้อมูลการค้าที่ยังไม่เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป และมีมูลค่าในเชิงพาณิชย์เนื่องจากข้อมูลนั้นเป็นความลับ และมีการดำเนินการตามความสมควรเพื่อรักษาข้อมูลนั้นไว้เป็นความลับ
ชื่อทางการค้า หมาถึง ชื่อที่ใช้ในการประกอบกิจการ เช่น โกดัก ฟูจิ เป็นต้น
สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หมายถึง ชื่อ สัญลักษณ์ หรือสิ่งอื่นใดที่ใช้เรียกหรือใช้แทน แทนแหล่งภูมิศาสตร์ และสามารถบ่งบอกว่าสินค้าที่เกิดจากแหล่งภูมิศาสตร์นั้นเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ ชื่อเสียง หรือคุณลักษณะเฉพาะของแหล่งภูมิศาสตร์นั้น เช่น มีดอรัญญิก ส้มบางมด ผ้าไหมไทย แชมเปญ คอนยัค เป็นต้น
ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 "ลิขสิทธิ์ หมายความว่า สิทธิแต่ผู้เดียวที่จะทำการใด ๆ ตามพระราชบัญญัตินี้เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำขึ้น" ดังนั้นการใช้ซอฟต์แวร์ที่ผู้อื่นสร้างขึ้นจำเป็นต้องได้รับการอนุญาตจากผู้สร้าง โดยใบอนุญาต (license) นี้เป็นสัญญาระหว่างผู้สร้างกับผู้ใช้ซอฟต์แวร์ ใบอนุญาตเป็นการให้สิทธิผู้ใช้ในการใช้ซอฟต์แวร์ได้โดยไม่ถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งผลก็คือใบอนุญาตทำหน้าที่เหมือนคำสัญญาว่าผู้สร้างจะไม่ฟ้องร้องผู้ใช้ในการใช้ซอฟต์แวร์ซึ่งถือเป็นสิทธิของผู้สร้างแต่เพียงผู้เดียว
ใบอนุญาตนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท โดย Free Software Foundationได้แบ่งใบอนุญาตด้วยคำถาม 3 คำถามคือ
- ใบอนุญาตนั้นมีคุณสมบัติเป็นใบอนุญาตซอฟต์แวร์เสรี (free software license) หรือไม่
- ใบอนุญาตนั้นเป็นใบอนุญาตแบบ copyleft หรือไม่
- ใบอนุญาตนั้นเข้ากันได้กับใบอนุญาต GPL หรือไม่
รู้หรือไม่
- ซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ ถือเป็นงานวรรณกรรม คือ งานนิพนธ์ที่ทำขึ้น ได้รับการคุ้มครองแบบลิขสิทธิ์เท่านั้น ไม่สามารถนำไปขอจดสิทธิบัตร
- ผลงานประเภทที่สามารถจดสิทธิบัตร (Patent) ได้ คือ สิ่งประดิษฐ์ (ยกตัวอย่างสิทธิบัตรที่นักศึกษาสืบค้นส่งอาจารย์) และออกแบบผลิตภัณฑ์ (เช่น การออกแบบสี ลวดลาย รูปร่าง ของสิ่งของ เครื่องใช้ ที่มีคุณค่าในเชิงเศรษฐกิจ
- ในกรณีที่ไม่ได้ทำสัญญาระหว่างกัน เมื่อลูกจ้างทำการเขียนซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ขึ้น ซอฟต์แวร์นั้นย่อมเป็นลิขสิทธิ์ของลูกจ้าง แต่บริษัทสามารถนำซอฟต์แวร์ออกเผยแพร่ หรือจำหน่ายได้ ตามวัตถุประสงค์ของการจ้างงานนั้น
- หากเจ้าของขายลิขสิทธิ์ให้ผู้อื่นแล้ว ก็ยังสามารถแสดงตนว่าเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานลิขสิทธิ์นั้นได้
- เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกจ้างของบริษัทนำซอฟต์แวร์หรือผลงานลิขสิทธิ์ที่คิดขึ้นขณะที่เป็นลูกจ้างของเราออกไปหาผลประโยชน์ บริษัทจะต้องให้ลูกจ้างเซ็นสัญญษยกลิขสิทธิ์ในผลงานทุกอย่าง ที่ทำขึ้นขณะเป็นลูกจ้างของเราให้แก่บริษัท
- หากบริษัทคู่แข่งสร้างซอฟต์แวร์ที่มีวิธีการทำงานเหมือนกับซอฟต์แวร์ที่บริษัทเราสร้างขึ้นมาก่อน บริษํทคู่แข่งไม่ได้ละเมิดลิขสิทธิ์ของเรา เพราะ สิ่งที่ไม่ใช่งานลิขสิทธิ์ เช่น ความคิด ขั้นตอน กรรมวิธี ระบบ หลักการ วิธีใชหรือทำงาน ทฤษฎี แนวความคิด การค้นพบ ข่าวประจำวัน เป็นต้น
- ถ้าถูกจับได้ว่าละเมิดลิขสิทธิ์ต้องเสียค่าละเมิดลิขสิทธิ์ให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์
- เมื่อพัฒนาซอฟต์วร์หรือเว็บไซต์เสร็จ จะได้รับการคุ้มครองทันที โดยไม่ต้องไปทำการจดทะเบียนกับกราทรัพย์สินทางปัญญา แต่เราสามารถไปจดแจ้งลิขสิทธิ์ไว้ได้ เพื่อเป็นการแจ้งให้ผู้อื่นรับทราบ
- การดัดแปลงซอฟต์แวร์ โดยได้รับอนุญาตถือว่าไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
- หากมีผู้มาทำการดัดแปลง คัดลอกซอฟต์แวร์ของบริษัท ทางบริษัทสามารถเอาผิดกับบุคคลเหล่านั้นได้โดยการดำเนินคดีตามกฎหมายได้ทันที แต่บางครั้ง อาจเจรจายอมความได้ หรือเรียกเก็บค่าลิขสิทธิ์ก็ได้
- บทลงโทษเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์ คือ การละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรง เช่น ทำซ้ำ ดัดแปลง : มีโทษปรับ 20,000 - 200,000 บาท หากทำเพื่อการค้า มีโทษจำคุก 6 เดือน ถึง 4 ปี หรือปรับ 100,000 - 800,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ การละเมิดลิขสิทธิ์โดยอ้อม (สนับสนุนให้เกิดการละเมิด) : มีโทษปรับ 10,000 - 100,000 บาท หากทำเพื่อการค้า มีโทษจำคุก 3 เดือน ถึง 2 ปี หรือ 50,000 - 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- หากเป็น บุคคลธรรมดา ผลงานลิขสิทธิ์จะได้รับการคุ้มครองตลอดชีวิตผู้สร้างสรรค์ + 50 ปี หากเป็น นามแฝง/นิติบุคคล จะได้รับการคุ้มครอง 50 ปี นับแต่สร้างสรรค์
- หากผู้เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เสียชีวิตลงสิทธิในการครอบครองลิขสิทธิ์นั้นจะตกแก่ทายาท(ในระยะเวลาไม่เกิน 50 ปี)
- งานที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์เพราะอายุแห่งการคุ้มครองสิ้นสุดลง หากนำมารวบรวม ผู้ทำการรวบรวมสามารถเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์นั้นได้
- ข่าวประจำวันและข้อเท็จจริงต่างๆที่มีลักษณะเป็นเพียงข่าวสารเมื่อนำไปเผยแพร่ต่อ ถือว่าไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
- ถ้ามีผู้ว่าจ้างให้พัฒนาซอฟต์แวร์ โดยมีสัญญาว่าจ้าง ผลลงานที่ได้เป็นของผู้ว่าจ้าง ผู้ถูกว่าจ้างนำไปขายต่อให้แก่องค์กรอื่นไม่ได้
- เมื่อเจ้าของลิขสิทธิ์เสียชีวิตลง จะได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์นั้นต่อไปอีก 50 ปี หลังจากเสียชีวิต
- การติชมหรือวิจารณ์ผลงานที่มีลิขสิทธิ์ ถือว่าไม่ละเมิดลิขสิทธิ์
- เมื่อซื้อซอฟต์แวร์ หากทำซ้ำ เพื่อป้องกันการสูญหายหรือเสียหาย(Back up) ไม่ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
แนะนำการสอบ
คำแนะนำในการสอบกรมทรัพย์สินทางปัญญา
การสอบของกรมทรัพย์สินทางปัญญา จะมีทั้งการสอบรรจุเป็นข้าราชการ และการสอบเป็นพนักงานราชการหรือลูกจ้าง ในกรณีที่สอบบรรจุเข้ารับราชการผู้เข้าสอบจะต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ของสำนักงาน ก.พ. ก่อน แต่ถ้าสอบเป็นพนักงานราชการไม่ต้องใช้ใบสอบผ่านภาค ก ของ ก.พ. ในบางตำแหน่ง เช่นนิติกร ก็อาจจะใช้ผลทดสอบภาษาอังกฤษ จาก TOEFL
โดยในประกาศรับสมัครจะระบุคะแนนว่าต้องไม่ต่ำกว่าเท่าใดจึงจะมีสิทธิ์สมัครสอบได้
การสอบเข้ากรมทรัพย์สินทางปัญญา จะมีการประเมินสมรรถนะอยู่ 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 โดยการสอบข้อเขียน ครั้งที่ 2 โดยการสัมภาษณ์ และจะต้องผ่านการประเมินสมรรถนะครั้งที่ 1 โดยวิธีการสอบข้อเขียนก่อนและเมื่อผ่านการประเมินสรรถนะครั้งที่ 1 แล้ว จึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการประเมินสมรรถนะครั้งที่ 2 โดยวิธีสอบสัมภาษณ์ ทั้งนี้จะต้องได้คะแนนสอบข้อเขียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
การเตรียมตัวสอบ
ในส่วนการสอบวิชาเฉพาะตำแหน่ง ควรอ่านให้มากๆ ศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาตำแหน่งให้ดี ข้อสอบจะเป็นระเบียบข้อกฏหมาย วิชากฎหมายก็อ่านฉบับเต็ม ท่องให้ได้ทุกมาตราอย่าไปอ่านเเต่ช้อย มันไม่ตรงนัก ฝึกลองวิเคราะห์ข้อสอบ หาปากกาเน้นข้อความมาขีดเพื่อจำง่าย แล้วสรุป หรือท่องให้ได้ ฝึกทำข้อสอบเก่า โดยเฉพาะในเรื่องที่เป็นจุดบกพร่องของเราทำซ้ำๆจนเข้าใจ
วิชาเฉพาะตำแหน่งให้หาความรู้เกี่ยวกับหน่วยงานด้วย เช่น ประวัติ วิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม ผู้บริหาร หน้าที่ความรับผิดชอบ โดยการหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ความรู้เบื้องต้นด้านทรัพย์สินทางปัญญา
ความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญา และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในการสอบบางตำแหน่งจะข้อสอบอัตนัยด้วย อาจจะมีสัก 2-3 ข้อ บางตำแหน่งจะมีเฉพาะปรนัยเลย ดังนั้นผู้เข้าสอบจะต้องเตรียมตัวให้ดีในการอ่านหนังสือสอบ
ควรอ่านเนื้อหาที่จะออกสอบในประกาศ และดูเวลาว่าเหลือเวลากี่วันที่จะต้องสอบ และนำเนื้อหาการสอบมาทำความเข้าใจว่าแต่ละเรื่องเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง ค้นหาเนื้อหาแต่ละเนื้อหารวบรวมทุกสิ่งอย่างที่คิดว่าเกี่ยวข้องและจำเป็น แล้วแยกใส่ในแฟ้มงานเป็นหมวดๆ เมื่อได้เนื้อหาครบหมดแล้ววิเคราะห์ว่าแต่ละเนื้อหาใช้เวลาในการอ่านเท่าไหร่ แล้วนำผลรวมออกมาเทียบกับเวลาที่เรามีในการเตรียมตัวสอบ จากนั้นนำเวลามาถัวเฉลี่ย ให้ความหนักเบากับวิชาที่จะสอบ ว่าวิชาไหนเรื่องไหนใช้เวลาเท่าไหร่ แล้วจัดทำตารางการอ่านหนังสือเป็นช่วงเวลาอาจจะแบ่งเป็นต่อสัปดาห์ หรือ 2 สัปดาห์ แล้วนำมาแปะไว้ที่ไหนก็ได้ที่เราสังเกตเห็นได้ชัด ในการอ่านแต่ละวิชาควรอ่านอย่างน้อย 2 รอบ รอบแรกเป็นการอ่านรวมๆ เพื่อหาว่าจุดไหนสำคัญบ้างให้นำปากกาเน้นคำ Mark ไว้ รอบที่สอง จดบันทึกสิ่งที่เรา Mark ไว้ สรุปเป็นภาษาของเราเองเพื่อเอาไว้อ่านก่อนสอบ 1 วัน และก่อนนอนนั่งสมาธิอย่างน้อย 5 นาที สวดมนต์ด้วยก็ยิ่งดี นอกจากนี้ควรศึกษาเส้นทางการสอบ ห้องสอบให้ดี พอถึงสนามสอบให้ตรวจดูห้องสอบหรือนั่งหน้าห้องสอบรอเลยก็ได้ เพื่อป้องกันความกังวลใจ หรือเรื่องรบกวนใจ เมื่อใกล้จะสอบควรงดการพูดจาเรื่อยเปื่อย คุยสนุกเรื่องอื่น กับเพื่อนที่ร่วมสอบ หรือใครก็ตามอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันสมองไปจำอย่างอื่น ให้คิดแต่เรื่องสอบอย่างเดียว
นอกจากวิชาการที่ต้องใช้ตามวุฒิที่จะรับแล้ว ยังต้องทำการบ้านด้วยว่าหน่วยงานนั้นมีการแบ่งองค์กรยังไง ผู้บริหารเป็นใครในแต่ละระดับ แต่ละส่วนขององค์กรทำงานอะไร มีหน้าที่อะไร ตำแหน่งที่เราจะบรรจุมีหน้าที่อะไร ไปที่หน่วยงานนั้น ถ้ามีห้องสมุดหรือเอกสารเผยแพร่ควรไปอ่านให้หมด ปัจจุบันมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานหรือตำแหน่งที่จะทำหรือไม่ อย่างไร
ส่วนในการสอบสัมภาษณ์เป็นการสอบด้วยการสนทนาหรือพูดคุยกัน ดังนั้นผู้เข้าสอบควรจะทบทวนเตรียมความรู้หรือข้อมูลในส่วนที่เป็นวิชาการหรือเนื้อหาต่าง ๆ ที่ได้เตรียมไว้แล้วในการเตรียมตัวเข้าสอบข้อเขียน ซึ่งอาจจะใช้เวลาครั้งละ 10 – 30 นาที แล้วแต่กรณี หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า การเตรียมตัวเข้ารับการสอบสัมภาษณ์จำเป็นต้องทบทวนความรู้ และข้อมูลบางประการมิใช่เข้าสอบโดยมิได้ทบทวนความรู้หรือข้อมูลอะไรเลย การสัมภาษณ์เป็นการพูดคุยกัน ไม่ต้องเครียด ต้องแสดงความจริงใจ อย่าเสแสร้ง กรรมการจะดูกริยา ลักษณะการพูดจาเป็นว่าเป็นอย่างไรบ้าง เนียมไม่เนียม สำคัญจุดแรกที่กรรมการจะพิจารณาคือการแต่งกายของผู้เข้าสัมภาษณ์ ดูดี สะอาด ผมรัดผูกให้สวยงาม แต่งหน้าแต่พองาม พูดให้เป็นธรรมชาติที่สุด อย่าพาใครไปเป็นเพื่อน
ในการสัมภาษณ์ควรทำใจให้สบาย ตอบคำถามแบบธรรมขาติ เป็นตัวของตัวเอง โดยส่วนใหญ่กรรมการจะถามคำถามต่อไปนี้ คือ 1. ให้แนะนำตัวเอง 2.เหตุผลในการตัดสินใจเข้ารับราชการ 3. เล่าถึงประสบการณ์ในการทำงาน
วิชาที่ใช้สอบเป็นพนักงานราชการ มีดังนี้คือ
การประเมินครั้งที่ 1 โดยวิธีสอบข้อเขียน (100 คะแนน)
- ความรู้ทั่วไปทางด้านทรัพย์สินทางปัญญา 40 คะแนน
- ความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง 60 คะแนน ได้แก่ กฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
การประเมินครั้งที่ 2 โดยการสอบสัมภาษณ์ (100 คะแนน)
พิจารณาจากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทํางาน ประสบการณ์ที่เหมาะสมกับตำแหน่ง การมีมนุษย์สัมพันธ์ ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับผู้อื่น ท่วงที วาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ
มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และจรรยาบรรณ
วิชาที่ใช้สอบเป็นข้าราชการ มีดังนี้คือ
1. ความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง ( 200 คะแนน )
ทดสอบความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา และความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญา และกฏหมายที่เกี่ยวข้อง
2. การสอบสัมภาษณ์ ( 100 คะแนน ) เป็นการทดสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตําแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้งโดยวิธีการสัมภาษณ์หรือวิธีอื่นเพื่อประเมินความเหมาะสมกับตําแหน่งจากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทํางานประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติการปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน สังคมและสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ บุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้สอบแข่งขันเพื่อให้ได้บุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ และอื่นๆ ที่จําเป็นสําหรับตําแหน่ง
ทั้งนี้ กําหนดให้ผู้สมัครสอบ ต้องสอบความรู้ความสามารถเฉพาะตําแหน่งก่อนผ่านก่อน โดยมีคะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 จึงจะมีสิทธิเข้าสอบภาคความเหมาะสมกับตําแหน่ง
ตัวอย่างข้อสอบอัตนัย กรมทรัพย์สินทางปัญญา
(1) ท่านมีความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ทรัพย์สินทางปัญญา อย่างไรบ้างจงอธิบายมาให้เขาใจ
(2) ถ้าคุณเป็นนักวิชาการพาณิชย์ คุณจะให้ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับตัวของผู้ประกอบการไทยอย่างไรถึงจะแข่งขันกับ AEC ได้
(3) จงอธิบาย ความแตกต่างระหว่างสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร
(4) จงอธิบายเกี่ยวกับคำศัพท์ต่อไปนี้
1. เครื่องหมายการค้า (Trademake)
2. ความลับทางการค้า (Trade Secrets)
3. ลิขสิทธิ์
(5) ประเทศไทยมีกฎหมายให้ความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา 4 ฉบับ คือ
(6) จงอธิบายเกี่ยวกับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ (Utility Patent)
(7) จงอธิบายความหมายของคำว่า ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย และแปลงทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทุน
(8) จาก พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2543 ได้ความคุ้มครองเครื่องหมาย 4 ประเภท อะไรบ้าง
รายละเอียดวิชาที่สอบ
นิติกร กรมทรัพย์สินทางปัญญา
1 ความรู้เกี่ยวกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
2 แนวข้อสอบเกี่ยวกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา?
3 ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา
4 ความรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา
5 การคุมครองทรัพสินย์ทางปัญญาระหว่างประเทศ
6 พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
7 แนวข้อสอบพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2527 และแก้ไขเพิ่มเติม
8 แนวข้อสอบกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
9 แนวข้อสอบกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
10 แนวข้อสอบกฎหมายอาญา
11 แนวข้อสอบวิธีพิจารณาความแพ่ง
12 แนวข้อสอบ พรบ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540
13 แนวข้อสอบ พรบ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
14 แนวข้อสอบพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
ตำแหน่งที่สอบ
นิติกร
นักทรัพยากรบุคคล
นักวิชาการเงินและบัญชี
นักวิชาการตรวจสอบสิทธิบัตร
นักวิชาการพาณิชย์
การสอบของกรมทรัพย์สินทางปัญญา จะมีทั้งการสอบรรจุเป็นข้าราชการ และการสอบเป็นพนักงานราชการหรือลูกจ้าง ในกรณีที่สอบบรรจุเข้ารับราชการผู้เข้าสอบจะต้องเป็นผู้สอบผ่านการวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (ภาค ก.) ของสำนักงาน ก.พ. ก่อน แต่ถ้าสอบเป็นพนักงานราชการไม่ต้องใช้ใบสอบผ่านภาค ก ของ ก.พ. ในบางตำแหน่ง เช่นนิติกร ก็อาจจะใช้ผลทดสอบภาษาอังกฤษ จาก TOEFL
โดยในประกาศรับสมัครจะระบุคะแนนว่าต้องไม่ต่ำกว่าเท่าใดจึงจะมีสิทธิ์สมัครสอบได้
การสอบเข้ากรมทรัพย์สินทางปัญญา จะมีการประเมินสมรรถนะอยู่ 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 โดยการสอบข้อเขียน ครั้งที่ 2 โดยการสัมภาษณ์ และจะต้องผ่านการประเมินสมรรถนะครั้งที่ 1 โดยวิธีการสอบข้อเขียนก่อนและเมื่อผ่านการประเมินสรรถนะครั้งที่ 1 แล้ว จึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการประเมินสมรรถนะครั้งที่ 2 โดยวิธีสอบสัมภาษณ์ ทั้งนี้จะต้องได้คะแนนสอบข้อเขียนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60
การเตรียมตัวสอบ
ในส่วนการสอบวิชาเฉพาะตำแหน่ง ควรอ่านให้มากๆ ศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิชาตำแหน่งให้ดี ข้อสอบจะเป็นระเบียบข้อกฏหมาย วิชากฎหมายก็อ่านฉบับเต็ม ท่องให้ได้ทุกมาตราอย่าไปอ่านเเต่ช้อย มันไม่ตรงนัก ฝึกลองวิเคราะห์ข้อสอบ หาปากกาเน้นข้อความมาขีดเพื่อจำง่าย แล้วสรุป หรือท่องให้ได้ ฝึกทำข้อสอบเก่า โดยเฉพาะในเรื่องที่เป็นจุดบกพร่องของเราทำซ้ำๆจนเข้าใจ
วิชาเฉพาะตำแหน่งให้หาความรู้เกี่ยวกับหน่วยงานด้วย เช่น ประวัติ วิสัยทัศน์ พันธกิจ ค่านิยม ผู้บริหาร หน้าที่ความรับผิดชอบ โดยการหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต ความรู้เบื้องต้นด้านทรัพย์สินทางปัญญา
ความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญา และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ในการสอบบางตำแหน่งจะข้อสอบอัตนัยด้วย อาจจะมีสัก 2-3 ข้อ บางตำแหน่งจะมีเฉพาะปรนัยเลย ดังนั้นผู้เข้าสอบจะต้องเตรียมตัวให้ดีในการอ่านหนังสือสอบ
ควรอ่านเนื้อหาที่จะออกสอบในประกาศ และดูเวลาว่าเหลือเวลากี่วันที่จะต้องสอบ และนำเนื้อหาการสอบมาทำความเข้าใจว่าแต่ละเรื่องเกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง ค้นหาเนื้อหาแต่ละเนื้อหารวบรวมทุกสิ่งอย่างที่คิดว่าเกี่ยวข้องและจำเป็น แล้วแยกใส่ในแฟ้มงานเป็นหมวดๆ เมื่อได้เนื้อหาครบหมดแล้ววิเคราะห์ว่าแต่ละเนื้อหาใช้เวลาในการอ่านเท่าไหร่ แล้วนำผลรวมออกมาเทียบกับเวลาที่เรามีในการเตรียมตัวสอบ จากนั้นนำเวลามาถัวเฉลี่ย ให้ความหนักเบากับวิชาที่จะสอบ ว่าวิชาไหนเรื่องไหนใช้เวลาเท่าไหร่ แล้วจัดทำตารางการอ่านหนังสือเป็นช่วงเวลาอาจจะแบ่งเป็นต่อสัปดาห์ หรือ 2 สัปดาห์ แล้วนำมาแปะไว้ที่ไหนก็ได้ที่เราสังเกตเห็นได้ชัด ในการอ่านแต่ละวิชาควรอ่านอย่างน้อย 2 รอบ รอบแรกเป็นการอ่านรวมๆ เพื่อหาว่าจุดไหนสำคัญบ้างให้นำปากกาเน้นคำ Mark ไว้ รอบที่สอง จดบันทึกสิ่งที่เรา Mark ไว้ สรุปเป็นภาษาของเราเองเพื่อเอาไว้อ่านก่อนสอบ 1 วัน และก่อนนอนนั่งสมาธิอย่างน้อย 5 นาที สวดมนต์ด้วยก็ยิ่งดี นอกจากนี้ควรศึกษาเส้นทางการสอบ ห้องสอบให้ดี พอถึงสนามสอบให้ตรวจดูห้องสอบหรือนั่งหน้าห้องสอบรอเลยก็ได้ เพื่อป้องกันความกังวลใจ หรือเรื่องรบกวนใจ เมื่อใกล้จะสอบควรงดการพูดจาเรื่อยเปื่อย คุยสนุกเรื่องอื่น กับเพื่อนที่ร่วมสอบ หรือใครก็ตามอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อป้องกันสมองไปจำอย่างอื่น ให้คิดแต่เรื่องสอบอย่างเดียว
นอกจากวิชาการที่ต้องใช้ตามวุฒิที่จะรับแล้ว ยังต้องทำการบ้านด้วยว่าหน่วยงานนั้นมีการแบ่งองค์กรยังไง ผู้บริหารเป็นใครในแต่ละระดับ แต่ละส่วนขององค์กรทำงานอะไร มีหน้าที่อะไร ตำแหน่งที่เราจะบรรจุมีหน้าที่อะไร ไปที่หน่วยงานนั้น ถ้ามีห้องสมุดหรือเอกสารเผยแพร่ควรไปอ่านให้หมด ปัจจุบันมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานหรือตำแหน่งที่จะทำหรือไม่ อย่างไร
ส่วนในการสอบสัมภาษณ์เป็นการสอบด้วยการสนทนาหรือพูดคุยกัน ดังนั้นผู้เข้าสอบควรจะทบทวนเตรียมความรู้หรือข้อมูลในส่วนที่เป็นวิชาการหรือเนื้อหาต่าง ๆ ที่ได้เตรียมไว้แล้วในการเตรียมตัวเข้าสอบข้อเขียน ซึ่งอาจจะใช้เวลาครั้งละ 10 – 30 นาที แล้วแต่กรณี หรืออาจกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า การเตรียมตัวเข้ารับการสอบสัมภาษณ์จำเป็นต้องทบทวนความรู้ และข้อมูลบางประการมิใช่เข้าสอบโดยมิได้ทบทวนความรู้หรือข้อมูลอะไรเลย การสัมภาษณ์เป็นการพูดคุยกัน ไม่ต้องเครียด ต้องแสดงความจริงใจ อย่าเสแสร้ง กรรมการจะดูกริยา ลักษณะการพูดจาเป็นว่าเป็นอย่างไรบ้าง เนียมไม่เนียม สำคัญจุดแรกที่กรรมการจะพิจารณาคือการแต่งกายของผู้เข้าสัมภาษณ์ ดูดี สะอาด ผมรัดผูกให้สวยงาม แต่งหน้าแต่พองาม พูดให้เป็นธรรมชาติที่สุด อย่าพาใครไปเป็นเพื่อน
ในการสัมภาษณ์ควรทำใจให้สบาย ตอบคำถามแบบธรรมขาติ เป็นตัวของตัวเอง โดยส่วนใหญ่กรรมการจะถามคำถามต่อไปนี้ คือ 1. ให้แนะนำตัวเอง 2.เหตุผลในการตัดสินใจเข้ารับราชการ 3. เล่าถึงประสบการณ์ในการทำงาน
วิชาที่ใช้สอบเป็นพนักงานราชการ มีดังนี้คือ
การประเมินครั้งที่ 1 โดยวิธีสอบข้อเขียน (100 คะแนน)
- ความรู้ทั่วไปทางด้านทรัพย์สินทางปัญญา 40 คะแนน
- ความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง 60 คะแนน ได้แก่ กฏหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
การประเมินครั้งที่ 2 โดยการสอบสัมภาษณ์ (100 คะแนน)
พิจารณาจากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทํางาน ประสบการณ์ที่เหมาะสมกับตำแหน่ง การมีมนุษย์สัมพันธ์ ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับผู้อื่น ท่วงที วาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติ
มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และจรรยาบรรณ
วิชาที่ใช้สอบเป็นข้าราชการ มีดังนี้คือ
1. ความรู้ความสามารถเฉพาะตำแหน่ง ( 200 คะแนน )
ทดสอบความรู้ด้านทรัพย์สินทางปัญญา กรมทรัพย์สินทางปัญญา และความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญา และกฏหมายที่เกี่ยวข้อง
2. การสอบสัมภาษณ์ ( 100 คะแนน ) เป็นการทดสอบเพื่อวัดความเหมาะสมกับตําแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้งโดยวิธีการสัมภาษณ์หรือวิธีอื่นเพื่อประเมินความเหมาะสมกับตําแหน่งจากประวัติส่วนตัว ประวัติการศึกษา ประวัติการทํางานประสบการณ์ ท่วงทีวาจา อุปนิสัย อารมณ์ ทัศนคติการปรับตัวเข้ากับผู้ร่วมงาน สังคมและสิ่งแวดล้อม ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ปฏิภาณไหวพริบ บุคลิกภาพและพฤติกรรมของผู้สอบแข่งขันเพื่อให้ได้บุคคลที่มีคุณธรรม จริยธรรม ความรู้ความสามารถ ทักษะ สมรรถนะ และอื่นๆ ที่จําเป็นสําหรับตําแหน่ง
ทั้งนี้ กําหนดให้ผู้สมัครสอบ ต้องสอบความรู้ความสามารถเฉพาะตําแหน่งก่อนผ่านก่อน โดยมีคะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 จึงจะมีสิทธิเข้าสอบภาคความเหมาะสมกับตําแหน่ง
ตัวอย่างข้อสอบอัตนัย กรมทรัพย์สินทางปัญญา
(1) ท่านมีความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ทรัพย์สินทางปัญญา อย่างไรบ้างจงอธิบายมาให้เขาใจ
(2) ถ้าคุณเป็นนักวิชาการพาณิชย์ คุณจะให้ข้อเสนอแนะเพื่อการปรับตัวของผู้ประกอบการไทยอย่างไรถึงจะแข่งขันกับ AEC ได้
(3) จงอธิบาย ความแตกต่างระหว่างสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร
(4) จงอธิบายเกี่ยวกับคำศัพท์ต่อไปนี้
1. เครื่องหมายการค้า (Trademake)
2. ความลับทางการค้า (Trade Secrets)
3. ลิขสิทธิ์
(5) ประเทศไทยมีกฎหมายให้ความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา 4 ฉบับ คือ
(6) จงอธิบายเกี่ยวกับสิทธิบัตรการประดิษฐ์ (Utility Patent)
(7) จงอธิบายความหมายของคำว่า ภูมิปัญญาท้องถิ่นไทย และแปลงทรัพย์สินทางปัญญาเป็นทุน
(8) จาก พ.ร.บ. เครื่องหมายการค้า พ.ศ.2543 ได้ความคุ้มครองเครื่องหมาย 4 ประเภท อะไรบ้าง
รายละเอียดวิชาที่สอบ
นิติกร กรมทรัพย์สินทางปัญญา
1 ความรู้เกี่ยวกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา
2 แนวข้อสอบเกี่ยวกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา?
3 ความรู้เกี่ยวกับกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา
4 ความรู้เรื่องทรัพย์สินทางปัญญา
5 การคุมครองทรัพสินย์ทางปัญญาระหว่างประเทศ
6 พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537
7 แนวข้อสอบพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2527 และแก้ไขเพิ่มเติม
8 แนวข้อสอบกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
9 แนวข้อสอบกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
10 แนวข้อสอบกฎหมายอาญา
11 แนวข้อสอบวิธีพิจารณาความแพ่ง
12 แนวข้อสอบ พรบ.ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540
13 แนวข้อสอบ พรบ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539
14 แนวข้อสอบพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539
ตำแหน่งที่สอบ
นิติกร
นักทรัพยากรบุคคล
นักวิชาการเงินและบัญชี
นักวิชาการตรวจสอบสิทธิบัตร
นักวิชาการพาณิชย์
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)